วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ภาวะผู้นำแบบติดดิน 8


       วันนี้ก็เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของภาวะแบบติดดินในแบบของ กัปตันเรือ D.Michael Abrashoff กันแล้ว กับเทคนิคในการบริหารลูกน้องอย่างเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ แต่อย่างไรเสีย ไอหมอกก็จะพยายามสรรหาบทความดีดีแบบนี้มาให้ทุกท่านได้อ่านกันอย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุดเลยล่ะค่ะ ขอเพียงแค่ทุกท่านอย่าทิ้งไอหมอกไปไหนก็แล้วกัน ไม่งั้นมีเคืองนะคะ อิอิ .. อ่ะ ไปดูกันอีกสักนิดว่า แนวคิดจาก กัปตันเรือ D.Michael Abrashoff  ข้อสุดท้ายที่ท่านแนะนำมาคืออะไร


** การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมีความยั่งยืน **

       เรือหลายๆลำในกองทัพมีลักษณะไปในทางเดียวกันกับผู้บังคับบัญชาของพวกเขา แต่ผลและลูกเรือของผมไม่ห่วงเรื่องที่ผมจะย้ายไปประจำการที่อื่น เราได้ช่วยกันสร้างวงจรของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงขึ้นมา มันทำให้ทุกคนรู้ว่าความทุ่มเทของเขามีผล ลูกเรือกลุ่มนี้สร้างผลงานที่ดีเยี่ยม และยังมีกำลังใจที่จะทำให้มันดียิ่งขึ้นอีก ทัศนคติของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ เมื่อคุณเริ่มต้นการปฏิวัติสังคมขึ้นมาแล้ว คุณไม่สามารถหยุดมันได้อีกต่อไป ทุกคนบนเรือรู้ว่าพวกเขามีส่วนร่วมเป็นเจ้าขององค์กรนี้ เขารู้ว่าเขาจะได้อะไรถ้าเขาช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ เขามีความกล้าหาญที่จะยกมือขึ้นแสดงความคิดเห็นของเขา มันไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นอย่างเก่าได้อีกแล้ว


ข้อสังเกต

       ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย เรือ Banfold ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจสำคัญมากมาย เพราะว่ามีข้อมูลการฝึกและผลงานการใช้อาวุธเป็นเยี่ยม และยังมีขวัญและกำลังใจสูงสุด Abrashoff พูดถึงหลักการที่ทำให้เขาประสบผลสำเร็จในการเป็นผู้นำดังนี้

1.คุยกับลูกเรือของคุณ
       ลูกเรือบนเรือ Benfold  รู้ว่าเมื่อใดที่เขาอยากจะบอกอะไร และ Abrashoff ก็พร้อมจะรับฟังพวกเขา ตั้งแต่การสัมภาษณ์ลูกเรือใหม่จนถึงการตรวจสอบคุณภาพอาหาร ผู้บัญชาการเรือลำนี้จะพยายามหาข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับคนของเขาอย่างสม่ำเสมอ เขารู้ว่าลูกเรือของเขามีปัญหาเกี่ยวกับหนี้สินอันเกิดจากบัตรเครดิต เขาจึงจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการบริหารเงินมาให้คำแนะนำต่อลูกเรือ

2.อย่าหยุดที่ระเบียบการปฏิบัติงานมาตรฐาน
       เรื่อทั่วๆไปจะยึดกับระเบียบการมาตรฐาน ลูกเรือ Benfold จะไม่ยึดติดกับมันโดยไม่มีเหตุผล เพราะกัปตันของเขาจะถามอยู่บ่อยๆว่า “ทำไม?” เขาสันนิษฐานอยู่เสมอว่า มันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ และทัศนคตินี้ค่อยๆ ซึมซับลงไปในระดับล่างๆ ด้วย

3.อย่ารอจนสถานการณ์คับขันแล้วจึงค่อยบอก
       การรับฟังคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญ แต่การแสดงออกว่าคุณได้ยินสิ่งที่เขาพูดยิ่งสำคัญพอๆกัน Abrashoff มักจะพูดถึงสิ่งที่เขาคิดออกทางระบบกระจายเสียงประจำเรือ ลูกเรือของเขาสามารถเสนอความคิดเห็นอย่างหนึ่ง และทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาในสัปดาห์ถัดไป ครั้งหนึ่งลูกเรือบอกกับเขาว่ามีปัญหาในการฝึกซ้อมการยิงปืบนบก เพราะสนามยิงปืนมีคนแน่นเกินไป ลูกเรือจึงเสนอกับเขาว่าน่าจะฝึกยิงปืนกันในช่วงที่ออกทะเล Abrashoff เห็นด้วยกับลูกเรือคนนั้นและจัดการทำมันทันที

4.เสริมสร้างคุณค่าคุณภาพชีวิต
       เรือ Benfold มีศิลปะในการสร้างขวัญและกำลังใจอย่างสูง Abrashoff จัดให้มีชั่วโมงคาราโอเกะบนเรือ หลังจากนั้นลูกเรือก็จัดให้มีการฉายวิดีโอเพลงโดยใช้ลำตัวเรือเป็นจอ นอกจากนนี้ยังมีการปลอมตัวเลียนแบบเอลวิส และร้องเพลง Blue Christmas ในช่วงเทศกาล ผลของมันก็คือ ในขณะที่เรือลำอื่นๆขาดแคลนกะลาสี เรือ Benfold กลับมีคนขอมาประจำการอย่างล้นหลาม

5.ผู้นำแบบติดดินไม่ได้แสวงหาการเลื่อนตำแหน่ง
       Abrashoff บอกว่าเขาไม่ได้พยายามทำงานเพื่อการเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งทำให้เขาหลุดพ้นจากแรงกดดันที่คนทั่วๆไปมี ดังนั้นเขาจึงมีสมาธิที่จะมุ่งมั่นด้วยวิธีทำงานของเขา ผมไม่สนใจกับการเลื่อนตำแหน่ง มันทำให้ผมทำสิ่งที่ถูกต้องให้กบคนของผมได้ไม่เต็มที่ แต่การคิดและทำเช่นนี้ทำให้เขาได้รับการประเมินผลดีเยี่ยม และได้รับการแต่งตั้งไปสู่ตำแหน่งที่ดีมากในศูนย์ควบคุมยุทธการอวกาศและยุทธนาวี

ขอบคุณความรู้และแนวคิดที่ดีจาก .. PacRim Group และเครือธนาคารทหารไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น