วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

งาโหย่ว-ป๊อปคอร์นไทยใหญ่ สหกรณ์เมืองสามหมอก


       จากการที่เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางกดขี่เรื่องราคากันมานั้น ทำให้เกษตรกรจึงเกิดไอเดียในการรวมตัวกันเพื่อให้เป็นธุรกิจชุมชนเข้มแข็งขึ้นมากมายหลายกลุ่ม อาทิเช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มสหกรณ์ เพื่อจับมือกันในการบริหารกิจการท้องถิ่นให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และก้าวเข้าสู่การเป็นสินค้าเมืองสามหมอกอย่างเต็มประสิทธิภาพและยั่งยืน

       นางดาริณี รณะบุตร ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอก กล่าวว่า ทางกลุ่มฯ ได้นำงาซึ่งปลูกกันมากในแม่ฮ่องสอนที่มีผลผลิตล้นตลาดทำให้ราคาตกต่ำนำมาแปรรูปเป็นขนมงาหรือในภาษาไทใหญ่เรียกว่า “งาโหย่ว” จากภูมิปัญญาบรรพบุรุษชาวไทใหญ่ ด้วยการนำงาที่คั่วแล้วมาคลุกกับน้ำผึ้งหรือน้ำอ้อยแล้วเคี่ยวในกะทะจนงวด แล้วเทลงในถาดไม้แห้งแล้วจึงตัดขายมานาน ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า จนมาถึงตนซึ่งเป็นผู้สืบทอดรุ่นที่ 3 จึงได้เพิ่มรสชาติให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น งาโหย่วน้ำผึ้ง งาโหย่วขิง งาโหย่วตะไคร้ ฯลฯ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่รักษ์สุขภาพเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด โดยนำข้าวโพดสีม่วง หรือข้าวโพดข้าวเหนียวดำ มาคั่วกับเตาถ่านแบบโบราณ โรยด้วยเกลือป่น ทำให้มีกลิ่นหอม กรอบอร่อย จนติดตลาดได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ภายใต้แบรนด์ “ป๊อบคอร์นไทยใหญ่”

                                       

       “ป๊อปคอร์นไทยใหญ่ หรือข้าวโพดคั่ว ในพื้นที่หลายคนมองว่าเป็นของกินเล่นสำหรับคนจน แต่จริงๆ แล้วมีคุณประโยชน์มากมาย ทางกลุ่มฯ จึงนำมาแปรรูป โดยมีสหกรณ์แม่ฮ่องสอนเข้ามาช่วยสนับสนุน เราใช้ข้าวโพดพันธุ์ข้าวเหนียวดำ ซึ่งในพื้นที่มีการ ปลูกกันมากเป็นข้าวโพดใหม่แกะเมล็ด ผึ่งแดดให้แห้ง แล้วนำไปแช่น้ำ 1 คืน หลังจากนั้นนำมาคั่วด้วยไฟอ่อนจากเตาถ่าน เสร็จแล้วนำมาพักแล้วโรยด้วยเกลือป่น นำมาใส่ถุงซีนปิดอากาศเพื่อรักษากลิ่นหอมและความกรอบ ก็สามารถนำออกไปจำหน่ายให้กับลูกค้าได้แล้ว”

       กรรมวิธีการผลิตที่ยังคงรูปแบบโบราณ ด้วยการคั่วที่ใช้กระทะกับเตาถ่านนั้น นอกจากเป็นเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ยังช่วยให้มีป๊อปคอร์นของกลุ่มฯ มีกลิ่นหอม ต้นทุนการผลิตไม่สูง หลังทดลองเปิดตลาดแล้วกลุ่มผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างมาก จากข้าวโพด 1 ลิตร ประมาณ 20 ฝัก เดิมขายราคาฝักละ 1 บาท สามารถนำมาทำป๊อปคอร์นได้ 50 ถุง ขายในราคาถุงละ 40 บาท ส่งขายทั้งในแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, กรุงเทพฯ ทั้งตลาด อตก.จตุจักร, งานแสดงสินค้าเมืองทองธานี, ศูนย์ศิลปะชีพ 904 โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว รวมทั้งผู้บริโภคจากภาคใต้ที่นิยมสั่ง เช่น ยะลา นราธิวาส เป็นต้น

       สหกรณ์เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและชุมชน เมื่อสมาชิกมีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มฯ และคนชุมชนให้อยู่ได้ โดยไม่ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก .. หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น