วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

'ป๊อปคอร์น'ข้าวโพดม่วงเมืองสามหมอก


       แจ้งเกิดในงาน "มหกรรมสินค้าโอท็อป" ที่เมืองทองธานี ได้ยังไม่ถึง 2 ปี มาวันนี้ "ป๊อปคอร์นไทยใหญ่" ผลิตภัณฑ์ที่ "กลุ่มเกษตรกรเมืองสามหมอก" ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน แปรรูปมาจากข้าวโพดเหนียวสีม่วงที่ชาวไทยใหญ่นำมาคั่วผสมเกลือให้เด็กๆ กินเล่นในอดีต กลายเป็นสินค้าที่ขายดี และกำลังจะแซงผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของกลุ่มเดียวกัน "ขนมงาโหย่ว" โอท็อป 5 ดาว ล่าสุดได้ส่งประกวดเพื่อให้คณะกรรมการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ จ.แม่ฮ่องสอน ในปีนี้


       ดาริณี รณะบุตร ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอก บอกว่า ที่ผ่านมาทางกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอกแปรรูปเมล็ดงาทำเป็นขนม "งาโหย่ว" และถั่วเหลืองทอด จนเป็นที่เป็นที่รู้จักของนักบริโภคอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะขนมงาโหย่ว เนื่องจากได้รับการคัดเลือกเป็นสินค้าโอท็อปทั้ง 3 ดาว 4 ดาว และ 5 ดาว กระทั่งต้นปีที่แล้ว (ปี 2554) ได้ทดลองนำผลิตภัณฑ์ "ป๊อปคอร์นไทยใหญ่" ไปลองขายงานมหกรรมสินค้าโอท็อปที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค อารีน่า เมืองธานี จำนวน 400 ถุงปรากฏว่าขายจนเกลี้ยง หลังจากนั้นก็นำไปขายงานโอท็อปอีกหลายครั้ง ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะผู้บริโภคไม่เคยเห็นสินค้าประเภทนี้มาก่อน

       "ที่จริงป๊อปคอร์นไทยใหญ่ไม่ใช่ของใหม่หรอกค่ะ ตามปกติชาวไทยใหญ่ทำมานานแล้ว คือนำข้าวโพดเหนียวสีม่วง ที่เรียกง่ายๆว่าข้าวโพดสีม่วง หรือบางคนเรียกว่าข้าวโพดสีดำ ที่ชาวไทยใหญ่และชาวเขาเผ่าลีซอปลูกเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง โดยเอาเมล็ดข้าวโพดสีม่วงมาคั่วกับน้ำมันงา แล้วมาผสมเกลือให้เด็กๆ กินเล่น สำหรับคนจนในพื้นที่ แต่ฉันเห็นว่าข้าวโพดสีม่วงมีคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการ ทางกลุ่มแม่บ้านเราจึงนำมาแปรรูปเป็นผลิตใหม่ของกลุ่ม แรกๆ ขายในท้องถิ่น แต่หลังจากไปขายในงานโอท็อปที่เมืองทอง ปรากฏว่าได้การตอบรับเป็นอย่างดี อย่างไม่น่าเชื่อ และระยะหลังเวลาไปออกงานโอท็อปที่ไหนก็ดีทุกครั้ง กลายเป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งของกลุ่มในขณะนี้" ดาริณี กล่าว

       ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอก บอกอีกว่า หลังจากป๊อปคอร์นไทยใหญ่เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้วันนี้ทางกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอกมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้นัดท่องเที่ยวที่มาเที่ยวใน จ.แม่ฮ่องสอน จะถามหาสินค้าป๊อปคอร์นไทยใหญ่มาตลอด ทางกลุ่มต้องผลิตอย่างน้อยวันละ 300-400 ถุง เป็นถุงขนาดน้ำหนัก 80 กรัม ขายส่งในราคา 35 บาท ขายปลีก 40 บาท ปัจจุบันมีวางในพื้นที่แม่ฮ่องสอนพร้อมกับสินค้าตัวเดิม ไม่ว่าจะเป็นขนมงาโหย่ว และถั่วเหลืองทอด อาทิ หจก.ภาสว่าง ตลาดสายหยุด ศูนย์โอท็อป จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ส่งขายในตลาดวโรรสเชียงใหม่ ศูนย์ศิลปชีพ 904 โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ร้านสันติอโศก ร้านพลังบุญ ร้านสมุนไพร จ.ยะลา ร้านของฝากลำปาง รวมถึงงานแสดงสินค้าโอท็อปที่รัฐบาลจัด เป็นต้น

       "ป๊อปคอร์นไทยใหญ่ เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ที่ยังไม่ได้โอท็อป แต่ปีนี้เราส่งเข้าประกวดในโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้โอท็อป ตลาดไปได้สวยแน่นอน เพราะตอนนี้ถือว่าเป็นสินค้าที่ขายพอๆ กับขนมงาโหย่วแล้ว ทั้งๆ ที่เราเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไม่ถึง 2 ปี" เธอกล่าวอย่างมั่นใจ


       ด้าน เทอดศักดิ์ ปิติวุฒิ กรรมการผู้จัดการ หจก.ภาสว่าง ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน รวมถึงป๊อปคอร์นไทยใหญ่ บอกว่า จะรับผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอกมาทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นขนมงาโหย่ว ถั่วเหลืองทอด และป๊อปคอร์นไทยใหญ่ ซึ่งเป็นผลิตตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่แล้ว แต่ตอนนี้สามารถขายได้ไม่แพ้ขนมงาโหย่ว ถั่วเหลืองทอด แต่ละวันจะขายได้เฉลี่ยที่วันละ 400 ถุง สังเกตดูจากที่นักท่องเที่ยวเข้าไปชิม จำนวน 10 คนต้องซื้อป๊อปคอร์นไทยใหญ่ถึง 8 คน เพราะรสชาติอร่อย กรอบ มันเค็มนิดๆ เมล็ดไม่บานเหมือนป๊อปคอร์นทั่วไป

       ขณะที่ สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวระหว่างพาสื่อมวลชนไปดูงานสหกรณ์ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ต่อไปจะเน้นในเรื่องการสร้างเครือข่ายสหกรณ์ให้เข้มข้นขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสหกรณ์ด้วยกันที่เอื้อประโยชน์ ให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องผ่านระบบการจัดการของคนกลาง ดั่งเช่นสหกรณ์แม่ฮ่องสอน ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น ถั่วเหลืองคั่ว กระเทียม รวมทั้งป๊อปคอร์นไทยใหญ่ ทำแปรรูปมาจากข้าวโพดข้าวเหนียวม่วง ถือเป็นผลิตผลทางการเกษตรจากเกษตรกรในพื้นที่ แต่สามารถกระจายสินค้าส่งไปขายได้ทั่วทุกภาคของประเทศ

       แม้ "ป๊อปคอร์นไทยใหญ่" จะเป็นขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กที่มีฐานะยากจน ในท้องถิ่น จ.แม่ฮ่องสอน แต่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของคนถิ่นอื่น แต่แต่ด้วยความแปลกใหม่ รสชาติที่อร่อยชนิดไม่มีใครเหมือน ทำให้วันนี้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอก

--------------------
เคล็ดลับง่ายๆ ทำกินเองได้

       พันธิพา ปิติวุฒิ สมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเมืองสามหมอก บอกถึงขั้นตอนในการผลิตป๊อปคอร์นไทยใหญ่ว่า หลังจากนำวัตถุดิบคือข้าวโพดเหนียวสีม่วง ซึ่งมีการปลูกในพื้นที่ มาแกะเมล็ดออก จากนั้นนำไปผึ่งแดดให้แห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน

       เมื่อจะนำมาทำเป็นป๊อปคอร์นไทยใหญ่ก็นำเมล็ดข้าวโพดเหนียวที่ตากแห้งมาแช่น้ำ 1 คืน สะเด็ดน้ำให้แห้ง เอากระทะขึ้นเต่าถ่านไฟร้อนปานกลางใส่น้ำมันงาเกินครึ่งกระทะ (น้ำมันให้เยอะ) แล้วเอาเมล็ดข้าวโพดลงไป ใช้ฝาที่นูนครอบ

       ระหว่างนั้นจะมีเสียงเมล็ดข้าวโพดแตกดังเป็นระยะ รอจนกว่าเสียงเงียบ จึงตักใส่กระด้ง โรยด้วยเกลือป่น ปริมาณ 1% ของปริมาณของเมล็ดข้าวโพด แล้วนำมาใส่ถุงซีนปิดอากาศเพื่อรักษากลิ่นหอมและความกรอบ ก็สามารถส่งจำหน่ายให้กลุ่มผู้บริโภคได้  โดยข้าวโพดเหนียวสีม่วง 20 ฝัก ได้เมล็ดข้าวโพด 1 ลิตร   สามารถนำมาทำป๊อปคอร์นได้ 50 ถุง

       สำหรับข้าวโพดข้าวเหนียวม่วงมีคุณค่าทางโภชนาการ ประกอบด้วย คลอโรฟิลล์ ออกซิเจน ช่วยฟอกเลือด สร้างเม็ดเลือด ช่วยระบบหมุนเวียนโลหิต มีแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้อัตราการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายลดลง ทำให้แก่ช้ากว่าวัย นอกจากนั้นยังมีสารช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ช่วยให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรค ช่วยสมานแผลและเสริมสร้างการทำงานของสมอง เหมาะสำหรับทุกวัย อีกทั้งเป็นการนำเสนอของดีประจำท้องถิ่นอีกด้วย

--------------------
'ป๊อปคอร์นไทยใหญ่' จากข้าวโพดม่วง ผลิตภัณฑ์มาแรงจากเมืองสามหมอก : โดย...ดลมนัส  กาเจ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น