วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วิลเลียม ไฮเนคกี้ จากเสื่อผืนหมอนใบ สู่ธุรกิจพันล้าน

          ยอมแพ้หรือยัง?? ไอหมอกถามตัวเอง ใช่ คำตอบที่ได้คือไม่ยอมแพ้ แต่ไอหมอกรู้สึกหมดแรง ไม่ต้องการที่จะสู้กับปัญหาที่มันกำลังถาโถมอยู่ในขณะนี้ .. หรือนี่คือบททดสอบ?? และไอหมอกจะปลุกตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง จากบทความนี้


          วิลเลี่ยม ไฮเน็คกี ผู้ซึ่งเป็นตำนานเสื่อผืนหมอนใบฉบับฝรั่งตาน้ำข้าว จากหนุ่มน้อยวัย 17 ปีที่มุ่งมั่นมายังเมืองไทยทิ้งการเรียนไว้ข้างหลังและเริ่มธุรกิจรับทำความสะอาดจากไม้ถูพื้นและถังน้ำ จนเวลาผ่านไป 45 ปี ในวันนี้เขาคือผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจโรงแรม ฟาสต์ฟู้ด มูลค่านับหมื่นล้านบาท อะไรทำให้คนหนึ่งสามารถประสบความสำเร็จมาได้ไกลขนาดนี้
เขาเริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้างในขณะยังเรียนอยู่ให้กับหนังสือพิมพ์บางกอกเวิลด์ โดยเขียนนคอลัมน์เกี่ยวกับรถแข่งและขายโฆษณา จนต่อมาเมื่อเรียนจบก็เริ่มตั้งบริษัทด้วยเงินทุนที่กู้ยืมมาอีกทีหนึ่งโดยเปิดบริษัทรับจ้างทำความสะอาดในอาคาร และ บริษัททำสื่อโฆษณาวิทยุที่ต่อมาขายให้กับบริษัทโอกิลวี่ซึ่งเป็นอดีตเจ้านายของ ไฮเนคกี้

          จากจุดเริ่มต้นของธุรกิจเล็กๆนั้นได้นำพาเข้าให้ไปพบกับคนในตระกูลจิราธิวัฒน์ ซึ่งได้เข้ามาร่วมหุ้นในการเปิดร้านมิสเตอร์ แฟรงกลิน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทว่านับเป็นการบุกเบิกธุรกิจฟาสต์ฟู้ดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในเวลาต่อมา ร่วมกับกลุ่มจิราธิวัฒน์อีกครั้งหนึ่งเพื่อเปิดร้านมิสเตอร์ โดนัท แห่งแรกที่สยามเซ็นเตอร์ ถือเป็นความสำเร็จในการแนะนำให้คนไทยรู้จักร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งต่อมากลายเป็นร้านยอดนิยมของวัยรุ่นในเวลาต่อๆ มา
          ไฮเนคกี้ เป็นคนที่มุ่งมั่นมากไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ขยันที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลาและด้วยความไม่กลัวปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ทำให้เขาสามารถตะลุยปัญหาระหว่างทางที่เกิดขึ้นได้ตลอด ไฮเนคกี้เป็นคนไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เป็นคนที่พร้อมจะเผชิญกับวิกฤตได้ตลอดเวลา และยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ นั่นทำให้หลายๆครั้งธุรกิจของเขาที่เผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ๆ สามารถผ่านพ้นมาได้และเติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้น
          เมื่อครั้งมีปัญหากับแบรนด์พิซซ่าฮัทที่ถูกบริษัทแม่ไปบริหารเอง ทำให้เขาต้องออกมาตั้งแบรรนด์ใหม่ในนาม พิซซ่า คอมปานี ด้วยแบรนด์ใหม่ จะทำอย่างไรให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ใหม่นี้ได้ แต่ด้วยทำเลร้านที่มีอยู่เดิมซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้เช่า ระบบฐานข้อมูลลูกค้า ทีมงานส่งพิซซ่า และ ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างหน้าพิซซ่าหน้าใหม่ๆให้มากกว่าคู่แข่ง เครื่องที่มากกว่า ทำให้ลูกค้าให้การต้อนรับแบรนด์พิซซ่าใหม่เป็นอย่างดี
          หรือครั้งวิกฤตสึนามิที่ทำให้โรงแรมอนันตราที่เขาหลัก จ.พังงาพังยับเยิน พนักงานและลูกค้าต้องเสียชีวิต  การจะกลับมาพลิกฟื้นก็นับว่ายากเย็นแสนเข็ญนัก แต่ไฮเน็คกี้เน้นย้ำกับทีมงานว่า ต้องเข้มแข็ง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมเติบโตและฝันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน นั่นกลายเป็นจุดแข็งและสร้างแรงดีดที่สำคัญในการพลิกฟื้นโรงแรมที่พังราบไปแล้วให้กลับคืนขึ้นมาได้

          ภาวะความเป็นผู้นำในยามคับขันจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากทั้งการสร้างกิจการเติบโตอย่างยั่งยืนจากธุรกิจท้องถิ่นมาเป็นธุรกิจระดับนานาชาติ และแม้ในยามวิกฤตที่บริษัทต้องฟันผ่าและผ่านพ้นไปให้ได้
          สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจของไฮเน็คกี้ ความชอบ ไฮเน็คกี้เริ่มทำธุรกิจจากความชอบส่วนตัวเช่น การนำเอาไอศกรีมซเวนเซ่นเข้ามาในเมืองไทยครั้งแรก เพราะเขาชอบกินไอศกรีมมาก หรือแม้แต่พิซซ่า เพราะความชอบกินพิซซ่า ทำให้เขาดึงเอาแบรนด์พิซซ่าฮัทในเวลานั้นเข้ามาในเมืองไทย
          โดยเขาให้ความสำคัญมากที่ “จุดขาย”  ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะเล็กหรือใหญ่ นั่นทำให้เขาศึกษาก่อนลงมือทำธุรกิจเป็นอย่างดี เพราะนั่นหมายถึงคุณภาพของสินค้าหรือบริการที่ส่งมอบให้ลูกค้าที่ต้องมีคุณภาพสม่ำเสมอ และตอบโจทย์ความต้องการ ถูกรสนิยมและความชอบของลูกค้าด้วย
ในการทำธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีการแข่งขันดุเดือดมาก ไฮเน็คกี้เองก็ให้ความสำคัญในการวางแผนการโฆษณา การประชาสัมพันธ์รวมทั้งการสร้างแคมเปญและโปรโมชั่นที่โดนใจวางแผนการตลาดที่สอดคล้องกับภาวะตลาดเวลานั้นๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมี Great Advertising นั้นถือว่าสำคัญมาก และรวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น มีการรีแบรนด์ในร้านอาหารให้ตอบสนองกับลูกค้า

          ในการทำธุรกิจของไฮเน็คกี้นั้นเน้นไปที่การทำงานหนักแต่จะต้องสนุกกับงานนั้นด้วยซึ่งจะเป็นการสร้างแรงผลักดันให้ไปข้างหน้าได้พร้อมกับต้องมีเป้าหมายที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ควรทำธุรกิจโดยการวางเป้าหมายเริ่มเรื่องเล็ก ๆ ก่อนเพื่อให้ธุรกิจอยู่บนฐานที่มั่นคง ถ้าสำเร็จก็ค่อยๆขยายเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ทีละ ขั้นทีละตอน ในการตั้งเป้าหมายควรจะเป็นเป้าหมายที่เป็นฐานรองรับกับวิสัยทัศน์ เพระถ้ามีวิสัยทัศน์โดยปราศจากเป้าหมายรองรับก็จะเป็นวิสัยทัศน์ที่ว่างเปล่า
          แต่การทำธุรกิจบางครั้งคุณก็ต้องเชื่อในสัญชาตญาณของคุณเองเพราะสัญชาตญาณเป็นความเข้าใจโดยการใช้ความรู้สึกในทันทีทันใดโดยปราศจากเหตุผลหรือเป็นความเข้าใจในภาพแรกที่เห็น ในบางครั้ง ผู้ประกอบการอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของการเชื่อในความรู้สึกนั้นแล้ว ประสบความสำเร็จกว่าการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล หรือวิชาการ เพราะฉะนั้น จงเชื่อในสัญชาตญาณของตนเอง
          เหล่านี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่เริ่มจากเพียงไม้ถูพื้นและถังน้ำกับการรับจ้างทำความสะอาด ใครจะคาดคิดได้ว่าจากจุดเริ่มต้นตรงนั้นทำให้เขาครองครองอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่เพียงนี้ ความไม่ยอมแพ้ ความมุ่งมั่น การเรียนรู้ตลอดเวลาและเชื่อในสัญชาตญาณของตนเองทำให้ไฮเน็คกี้ก้าวขึ้นมาเป็นนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทยได้อย่างผ่าเผย

ภาพและบทความจาก scbsme.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น