วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

เส้นใยจิ๋วในระดับนาโนเมตร

       หลังจากที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงามกันมาเรื่อยๆแล้วนั้น ล่าสุดเกิดนวัตกรรมใหม่ขึ้นกับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางกันอีกแล้วค่ะ กับ  "แผ่นแปะรักษาสิว" ซึ่งผลิตจาก เส้นใยจิ๋วในระดับนาโนเมตร ด้วยเทคโนโลยีปั่นเส้นใยไฟฟ้าสถิตหรือ Electrospinning ของนักวิจัย

       ดร.พิกุลทอง ขอเพิ่มทรัพย์ นักวิจัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ค้นพบว่า เทคโนโลยีปั่นเส้นใยไฟฟ้าสถิตสามารถผลิตเส้นใยที่มีความบางต่ำกว่า 1 มิลลิเมตร  ส่งผลให้แผ่นแปะรักษาสิว ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกับแผ่นแปะนิโคตินสำหรับเลิกบุหรี่ โดยส่งผ่านสารสำคัญลงลึกสู่ชั้นใต้ผิวหนังนั้น มีความเรียบเนียนติดกับผิวหนังได้สนิท ต่างจากผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั่วไป



       นอกจากเทคโนโลยีเส้นใยนาโนที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพแล้ว นักวิจัยยังเลือกใช้สารสกัดจากเปลือกมังคุด ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีนัยสำคัญ มาเป็นส่วนประกอบหลักในแผ่นแปะนาโน อีกทั้งการผสมผสานความสามารถของเส้นใย 3 รูปแบบซึ่งซ้อนทับกัน 3 ชั้น ได้แก่ เส้นใยสีเหมือนผิว เส้นใยที่มีส่วนผสมของสารสกัดมังคุดและเส้นใยกาว พร้อมด้วยคุณสมบัติของเส้นใยที่มีลักษณะเป็นรูพรุน จะช่วยเพิ่มการระบายอากาศ ลดการอับชื้นและควบคุมการปลดปล่อยสารสกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดการอักเสบและบดบังรอยแดงของสิว พิสูจน์ได้จากผลการทดสอบทางคลินิก เส้นใยที่ซ้อนทับกันสามชั้นยังช่วยลดการสัมผัสกับสิ่งปนเปื้อน ทำให้สามารถใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ

       "คุณสมบัติเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสทางการตลาด เนื่องจากผลิตภัณฑ์แผ่นแปะรักษาสิวที่มีอยู่ในท้องตลาด ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน" ดร.พิกุลทองกล่าว

       จากผลิตภัณฑ์แผ่นแปะต้นแบบ ทีมวิจัยได้พัฒนาแผ่นแปะ 2 เฉดสี ให้เข้ากับสีผิวส่วนใหญ่ของคนไทย โดยเน้นไปที่โทนสีเข้มสำหรับผิวคล้ำ และสีอ่อนสำหรับผิวขาว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่พบกับปัญหาสิวอักเสบโดยเฉพาะ  ทั้งนี้ ผลสำเร็จจากงานวิจัยดังกล่าวสามารถถ่ายทอดไปยังผู้ประกอบการที่สนใจ อาทิ บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอาง โรงพยาบาลและคลินิกด้านความงาม เพียงแค่ลงทุนซื้อเครื่องปั่นเส้นใยไฟฟ้าสถิตก็สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้สารสกัดจากเปลือกมังคุดเท่านั้น


ส่งต่อความคิด
       ตลาดผลิตภัณฑ์รักษาสิวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 8-10% จากปี 2550 สินค้าในกลุ่มนี้มีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านบาท ขยับเป็น 300 ล้านบาทในปี 2552 และ 1 พันล้านบาทในปัจจุบัน โดยตลาดใหญ่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แต้มสิวและโฟมขจัดสิว

       "แผ่นแปะรักษาสิวมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 2% หรือ 20 ล้านบาท เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ จึงยังมีส่วนแบ่งอีก 90% ที่รอให้นักลงทุนเข้ามาต่อยอด โดยอาศัยความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากวิจัยวิทยาศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี" ดร.พิกุลทอง กล่าว

       ทั้งนี้ ผลงานวิจัยแผ่นแปะรักษาสิวเป็น 1 ใน 5 ผลงานวิจัยเด่น ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่จะเปิดตัวในงาน NSTDA Investor's Days 2012 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "นักวิจัยคิด นักธุรกิจลงทุน หนุนเศรษฐกิจไทยสู่ AEC" ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

       ส่วนอีก 4 ผลงานที่เหลือ ได้แก่ ตัวเร่งปฏิกิริยาไบโอดีเซลจากเปลือกไข่ เครื่องตรวจจับจุลชีพด้วยแผ่นช่องทางเดินของไหลขนาดไมครอนพร้อมระบบวินิจฉัยทางไกล ชุดทดสอบออกซิเจนละลายน้ำแบบพกพาและเครื่องวัดและวิเคราะห์ขนาดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ภายในงานยังจะพบกับผลงานวิจัยน่าลงทุนจากเครือข่ายวิจัยที่มีศักยภาพ อีกกว่า 27 ผลงาน พร้อมด้วยเวทีเจรจาธุรกิจให้ภาคเอกชนที่สนใจลงทุนธุรกิจใหม่ หรือต่อยอดธุรกิจเดิมโดยอาศัยผลงานวิจัยเป็นพลังในการขับเคลื่อน

       ถึงเวลาแล้วที่เราต้องพัฒนาเอาธรรมชาติที่มีอยู่มาดัดแปลง เพื่อพลิกธุรกิจให้หยั่งยืน และเป็นที่รู้จักต่อประชากรทั่วโลก ถึงความสามารถของคนที่เราที่ดัดแปลงเอาเส้นใยนาโน มาปรับใช้กับผลไม้ไทย ให้เกิดประโยชน์ต่อเนื่องกับธุรกิจ และสร้างชื่อเสียงให้กับสมุนไพร และผลไม้ไทยอีกด้วย หากเพื่อนๆมีไอเดีย อื่นๆเพิ่มเติม ว่า "สมุนไพรหรือผลไม้ไทย" ชนิดไหนที่น่าจะมีประโยชน์ด้านเวชสำอาง ลองมาพูดคุยกันได้นะคะ ^^


ขอบคุณความรู้ดีดีจาก กรุงเทพธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น